คำนำ
สวัสดีผู้เข้าเยี่ยมชมบล็อกทุกๆท่านนะค่ะ บล็อกนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นสื่อการเรียนการสอนในรายวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการสื่อสารสำหรับครู โดยจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับ เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการสื่อสาร,ระบบเทคโนโลยีสารสรเทศและการสื่อสาร,คอมพิวเตอร์และระบบคอมพิวเตอร์,ซอฟต์แวร์,ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์,อินเทอร์เน็ต,การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศกับการเรียนการสอน,การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนอผลงาน ข้อมูลดังกล่าวที่นำมาเสนอในบล็อกนี้หวังอย่างยิ่งว่าจะมีประโยชน์ต่อผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมบล็อกนี้ไม่มากก็น้อย ถ้าเกิดมีสิ่งใดที่ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะค่ะ

หน่วยเรียนที่ 5


หน่วยที่ 5

ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์


1.ความหมายและความเป็นมาของอินเทอร์เน็ต
คำว่าอินเทอร์เน็ต มาจากคำเต็มว่า International Network หรือเขียนแบบย่อว่าInternet หมาย ความว่า 
เครือข่ายนานาชาติหรือเครือข่ายสากล คือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั่วโลก เข้าด้วยกัน โนปัจจุบันมีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงกันอยู่มากกว่า 60 ล้านเครื่องมาเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข่าวสารกัน การที่คอมพิวเตอร์ที่แตกต่างกันหลายชนิดจำนวนมากมายทั่วโลกเชื่อมโยงกันได้ จะต้องใช้เกณฑ์วิธีหรือโพรโทคอล (Protocol) เดียวกันจึงจะเข้ากัน และเกณฑ์วิธีที่นำมาใช้กับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในปัจจุบันมีชื่อเรียกว่า ทีซีพี/ไอพี (TCP/IP)
2.ความสำคัญของอินเทอร์เน็ต
  • ด้านการศึกษา อินเทอร์เน็ตมีความสำคัญ ดังนี้
1) สามารถใช้เป็นแหล่งค้นคว้าหาข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลด้านการบันเทิง ด้านการแพทย์ และอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
2) ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จะทำหน้าที่เปรียบเสมือนเป็นห้องสมุดขนาดใหญ่
3) นัก ศึกษาสามารถใช้อินเทอร์เน็ตติดต่อกับมหาวิทยาลัยหรือโรงเรียนอื่น ๆ เพื่อค้นหาข้อมูลที่กำลังศึกษาอยู่ได้ ทั้งที่ข้อมูลที่เป็นข้อความเสียง ภาพเคลื่อนไหวต่าง ๆ
  • ด้านธุรกิจและการพาณิชย์ อินเทอร์เน็ตมีความสำคัญ ดังนี้
1) ค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจ
2) สามารถซื้อขายสินค้า ทำธุรกรรมผ่านระบบเครือข่าย
3) เป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์ โฆษณาสินค้า ติดต่อสื่อสารทางธุรกิจ
4) ผู้ ใช้ที่เป็นบริษัท หรือองค์กรต่าง ๆ ก็สามารถเปิดให้บริการ และสนับสนุนลูกค้าของตนผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ เช่น การให้คำแนะนำ สอบถามปัญหาต่างๆให้แก่ลูกค้า แจกจ่ายตัวโปรแกรมทดลองใช้ (Shareware) โปรแกรมแจกฟรี (Freeware)
  • ด้านการบันเทิง อินเทอร์เน็ตมีความสำคัญ ดังนี้
1) การพักผ่อนหย่อนใจ สันทนาการ เช่น การค้นหาวารสารต่าง ๆ ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่เรียกว่า Magazine Online รวมทั้งหนังสือพิมพ์และข่าวสารอื่น ๆ โดยมีภาพประกอบที่จอคอมพิวเตอร์เหมือนกับวารสารตามร้านหนังสือทั่ว ๆ ไป
2) สามารถฟังวิทยุหรือดูรายการโทรทัศน์ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้
3) สามารถดึงข้อมูล (Download) ภาพยนตร์มาดูได้
3.ประโยชน์อินเทอร์เน็ต
ในการใช้อินเทอร์เน็ตนั้นก่อให้เกิดประโยชน์หลายด้านด้วยกันสามารถสรุปที่สำคัญได้ดังนี้
1. ใช้แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร สะดวกและรวดเร็ว
2. ใช้สืบค้นข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ทั่วโลกได้
3. ใช้แลกเปลี่ยนข้อมูลกับเครื่องคอมพิวเตอร์ต่างระบบได้
4. สามารถส่งข้อมูลได้หลายรูปแบบ
5. ให้ความบันเทิงในรูปแบบต่างๆ เช่น การฟังเพลง เล่นเกมส์ เป็นต้น
6. ใช้สื่อสารด้วยข้อความ ซึ่งเป็นการพูดคุยกันระหว่างผู้ใช้อินเทอร์เน็ตโดยการพิมพ์ข้อความ โต้ตอบ
7. ใช้ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์
8. ซื้อขายสินค้าและบริการ
4.การใช้อินเทอร์เน็ต
การใช้งานอินเทอร์เน็ต ผู้ใช้สามารถใช้บริการจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ที่เราเรียกว่า ไอเอสพี (ISP หรือ Internet Service Provider)โดย การติดต่อขอใช้บริการผ่านตัวแทนไอเอสพีต่าง ๆ ได้โดยตรง สำหรับประเทศไทยเรามีไอเอสพีอยู่มากกว่า 15 แห่ง ซึ่งไอเอสพี คือบริษัทหรือองค์กรที่ให้บริการทางด้านอินเทอร์เน็ต รวมถึงศูนย์คอมพิวเตอร์ของสถาบันการศึกษาด้วย จะทำหน้าที่เชื่อมต่อระบบเครือข่ายจากประเทศไทยไปต่างประเทศ โดยผ่านเครือข่ายดาวเทียมหรือสายใยแก้วนำแสงของการสื่อสารแห่งประเทศไทย 
5.ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
การ ติดต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านระบบการสื่อสารโทรคมนาคมเข้าสู่ระบบอิน เทอร์เน็ต เพื่อใช้บริการต่างๆ จากอินเทอร์เน็ต สามรถทำได้ 2 วิธี ดังนี้
  • การติดต่อโดยใช้สายโทรศัพท์ผ่านอุปกรณ์โมเดม (Modem) ไป ยังเอสไอพีที่เราเป็นสมาชิกอยู่ โมเดม คือ อุปกรณ์แปลงสัญญาณคอมพิวเตอร์ให้เป็นสัญญาณโทรศัพท์และแปลงสัญญาณโทรศัพท์ ให้เป็นสัญญาณคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการแปลงสัญญาณดิจิทัลจากคอมพิวเตอร์เป็นสัญญาณแอนาล็อก ผ่านสายโทรศัพท์ไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ปลายทาง และขณะเดียวกันยังสามารถแปลงสัญญาณแอนาล็อกกลับเป็นสัญญาณดิจิทัลได้ โดยปกติเราใช้วิธีการนี้ติดต่อจากที่บ้านหรือที่ทำงานที่ไม่มีระบบเครือข่าย เชื่อมโยงถึง ความเร็วของการติดต่อขึ้นอยู่กับโมเด็ม ปัจจุบันมีความเร็วขนาด 64 กิโลบิตต่อวินาที

ภาพเเสดงการทำงานของโมเด็ม
  • การติดต่อผ่านเครือข่ายแลน วิธีนี้จะสะดวกมากกว่าวิธีอื่นการรับส่งข้อมูลมีความเร็วสูง นิยม ใช้ในหน่วยงานที่มีขนาดใหญ่ เช่น มหาวิทยาลัย กระทรวง ทบวงกรมต่าง ๆ ใช้งานได้พร้อมกันครั้งละหลาย ๆ คน โดยหน่วยงานเหล่านั้นจะต้องมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านสายสัญญาณใยแก้ว นำแสงหรือสายวงจรเช่า (leased line) กับไอเอสพี
6.องค์ประกอบของระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
การ ให้บริการอินเทอร์เน็ตมีหลายรูปแบบ และมีการเปลี่ยนแปลงและเกิดขึ้นใหม่ตลอดเวลา สามารถสรุปที่มีการใช้ประโยชน์มากที่สุดดังต่อไปนี้
  • การให้บริการเวิลด์ไวด์เว็บ (World Wide Web หรือ www)
  • การให้บริการไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Mail หรือ E-mail) เป็นบริการรับ-ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรืออีเมลล์
  •  การแลกเปลี่ยนข่าวสารแบบกลุ่ม (Unsent Newsgroup)
  •  การซื้อขายสินค้าและบริการ (Electronic Commerce หรือ E-Commerce
  •  การบริการการโอนถ่ายข้อมูล (Internet Relay Chat หรือ IRC)
  •  การสื่อสารโต้ตอบด้วยข้อความ (Internet Relay Chat หรือ IRC)
7. การเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์เข้าสู่ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
ผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตหลายคนอาจเข้าสู่อินเทอร์เน็ตโดยผ่านทางระบบเครือข่ายของสำนักงาน บริษัท หรือสถานศึกษาของตน ซึ่งตามปกติแล้วหากเป็นหน่วยงานหรือสำนักงานใหญ่ๆ จะต่อคอมพิวเตอร์เป็นระบบภายในองค์กร (LAN) ซึ่งมักจะเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการ (ISP) ผ่านสายนำสัญญาณความเร็วสูง (High-Speed Leased Line) แทนที่จะเชื่อมต่อผ่านโมเด็ม (Modem) แต่ถ้าหากว่าคอมพิวเตอร์ที่ใช้อยู่ในวง LAN ที่ไม่โตมากนักก็อาจใช้เชื่อมต่อผ่านโมเด็มก็ได้ เพราะจะทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการเชื่อมต่อระบบ แต่อาจจะมีปัญหาในเรื่องความเร็ว ในการเข้าสู่อินเทอร์เน็ตบ้างเล็กน้อย
เเสดงการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์กับเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
การเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ตผ่านทางผู้ให้บริการ
ผู้ให้บริการเชื่อมต่อเข้าระบบอินเตอร์เน็ต เรียกว่า ISP (Internet Service Provider) หรือที่เรียกกันว่า ไอเอสพี จะเป็นองค์กรที่ทำการติดตั้งเเละดูเเลเครื่องให้บริการ (Server) ที่ต่อเข้ากับระบบอินเตอร์เน็ต
การเชื่อมต่อผ่าน ISP ยังเเบ่งลักษณะการเชื่อมต่อออกเป็น 2 ประเภทตามความต้องการใช้งานดังนี้
  1. การเชื่อมต่อเเบบองค์กร
  2. การเชื่อมต่อส่วนบุคล
 TCP/IP : ภาษาหลักในอินเตอร์เน็ต
ปัจจุบันมีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตทั่วโลก ดังนั้นการสื่อสารระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์จะต้องอาศัยภาษากลางที่คอมพิวเตอร์สามารถเข้ากันได้ซึ่งภาษากลางนี้มีชื่อทางเทคนิคว่า " โปรโตคอล " สำหรับโปรโตคอลเป็นมาตรฐานที่ใช้ในการสื่อสารบนอินเตอร์เน็ตเรียกว่า " เเพ็คเก็ต "
SLIP/PPP : ช่วยสื่อสารผ่านสายโทรศัพท์ในการส่งข้อมูลในระบบอินเทอร์เน็ตนั้น จำเป็นต้องส่งผ่านทั้งในระบบสายสัญญาณ 6 สาย ในระบบ
LAN และระบบสายโทรศัพท์ประกอบกัน ดังนั้นเพื่อให้การสื่อสารเป็นไปได้อย่างราบรื่น จึงต้องมีโปรโตคอล เพิ่มขึ้นอีก ซึ่งได้แก่ โปรโตคอล SLIP (Serial Line Internet Protocol) และ PPP (Point-to-Point Protocol) ซึ่งทำงานบน TCP/IP อีกทีหนึ่ง
SLIP
โปรโตคอล SLIP ได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้ TCP/IP สามารถสื่อสารผ่านสายโทรศัพท์เพื่อส่งผ่านข้อมูล
ระหว่างระบบแลน (LAN) กับระบบแวน (WAN) ได้ซึ่งก็ได้รับความนิยม และเป็นที่ใช้ กันอย่างแพร่หลายโดยเฉพาะในระบบ UNIX ได้นำโปรโตคอลนี้ติดตั้งไว้เป็นส่วนหนึ่งของระบบ นั่นหมายความว่าทุกเครื่องที่ใช้ระบบ UNIX จะมีโปรโตคอล SLIP อยู่ในตัวและสามารถใช้งานได้ทันที
PPP
เนื่องจากปรากฎว่าโปรโตคอล SLIP เกิดมีปัญหาไม่เข้ากันกับโปรโตคอลบางตัวที่ระบบแลน (LAN)
นั้นใช้อยู่เดิมจึงได้มีการพัฒนาโปรโตคอลขึ้นมาใหม่ในชื่อ PPP เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ดังนั้น PPP จึงเป็นโปรโตคอลที่สามารถใช้ร่วมกับโปรโตคอลอื่นๆ ได้ดี อีกทั้งยังเพิ่ม ระบบการตรวจสอบข้อมูล การรักษาความปลอดภัย และการบีบอัดข้อมูลซึ่งทำงานได้ดีกว่า SLIP และก็คงถูกใช้เป็นมาตรฐานต่อไป
IP address : ระบุที่อยู่ของเครื่องคอมพิวเตอร์เราอาจสงสัยเกี่ยวกับการทำงานของอินเทอร์เน็ตว่า รู้จักที่อยู่ของคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆได้อย่างไร?
ลักษณะก็จะเหมือนกับเมื่อเราต้องการหาบ้านหลังหนึ่งในเมือง ขนาดใหญ่ไห้พบ เราต้องทราบข้อมูล เช่น บ้านเลขที่ ถนน ตำบล เป็นต้น ในอินเทอร์เน็ต ก็เช่นเดียวกัน เมื่อเราต้องการสื่อสารกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น เราก็จะต้องการที่อยู่ของ เครื่องนั้นๆ บนอินเเทอร์เน็ต ที่เรียกว่า ไอพี แอดเดรส (IP address)IP address เป็นหมายเลขประจำตัวเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่อง ซึ่งไม่ซ้ำกับเครื่องอื่นในโลก
โดยประกอบด้วยตัวเลข 4 ชุดต่อกัน โดยมีจุด (.) เป็นสัญลักษณ์ แบ่งตัวเลขเป็นชุด ซึ่งแต่ละชุดจะมีค่าได้ตั้งแต่ 0 ถึง 255

ตัวอย่าง : IP address 208.49.20.16

เนื่องจาก IP address เป็นหมายเลขที่ไม่ซ้ำกัน จึงได้เกิดหน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแล เรื่องการจัดสรร
IP address โดยตรง หน่วยงานนี้มีชื่อว่า interNIC (Internet Network Information Center) สำหรับผู้ใช้ อินเทอร์เน็ตทั่วๆไปจะได้รับ IP address จากผู้ให้บริการ อินเทอร์เน็ต (ISP : Internet Service Provider) ซึ่งได้ทำการขอ IP address เตรียมไว้ ล่วงหน้าแล้ว
Domain Name : อินเทอร์เน็ตแอตเดรสถึงแม้การทำงานของเครือข่ายคอมพิวเตอร์จะใช้ IP address แต่เนื่องจากเป็นชุดตัวเลขที่จดจำ
ได้ยาก ดังนั้นเพื่อแก้ปัญาหาดังกล่าง จึงได้มีการนำอินเทอร์เน็ตแอดเดรส หรือ โดเมนเนมมาใช้ กล่าวคือการนำตัวอักษรที่จำได้ง่ายมาใช้แทน IP address อินเทอร์เน็ตแอตเดรสจะไม่ซ้ำกันและเพื่อสะดวกในการจดจำชื่อโดเมน ดังนั้นโดเมนเนม มักนิยมตั้งให้สอดคล้องกับชื่อของบริษัท หรือชื่อองค์กรผู้เป็นเจ้าของเหล่านี้เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น